Fresh Coconut Makes Real Flavor
จากตอนที่แล้ว ทีมงาน Greyhound Cafe ได้พาคุณไปพบกับจุดเริ่มต้นของมะพร้าวมาตรฐาน Hound’s Quality ที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ( อ่านเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งได้ทาง HOUNDS QUALITY STORY CHAPTER I : COCONUT ) ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับขั้นตอนต่อไป เมื่อมะพร้าวได้ถูกส่งมาถึงส่วนกลางของ Greyhound Cafe แล้ว เชฟของเราจะนำมะพร้าวไปใช้อย่างไรต่อได้บ้าง เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน เราได้นัด เชฟส้ม-ศศิกานต์ วงศ์ไวศยวรรณ Pastry Chef ประจำ Greyhound Cafe ให้ช่วยอธิบายพร้อมสาธิตวิธีจัดการกับมะพร้าวตั้งแต่เริ่มต้นจนพร้อมเสิร์ฟหน้าร้านเลย
คำเตือน : ใครชอบของหวาน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี อ่านจบแล้วคุณจะต้องอยากมาอร่อยกับเมนูของหวานจากมะพร้าวที่ร้าน Greyhound Cafe อย่างแน่นอน
ทีมงานผ่าแยกน้ำมะพร้าวเป็นขั้นตอนแรก
เมื่อทีมเชฟได้มะพร้าวที่ตรงตาม Hound’s Quality แล้วเรียบร้อย ขั้นตอนแรกที่ต้องทำคือการผ่าเพื่อแยกน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว ในส่วนของน้ำมะพร้าวนั้นจะเก็บไว้ทำไส้มะพร้าวในเมนูของหวาน , ไอศกรีม , น้ำแข็งมะพร้าวกรานิต้า โดยมะพร้าวหนึ่งลูกจะได้น้ำมะพร้าวที่นำไปใช้ได้ประมาณ 250 มิลลิลิตร ส่วนเนื้อมะพร้าว เชฟจะใช้ช้อนค่อยๆ เลาะเนื้อออกมาทีละชิ้น ก่อนนำไปผ่าเป็นเส้นๆ หรือหั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อนำไปใช้ต่อในแต่ละเมนูซึ่งมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป แต่เรื่องของคุณภาพไว้ใจได้ไม่ต้องกังวล เพราะ เราใช้แต่มะพร้าวสดๆ เท่านั้น ไม่มีการใช้แบบสำเร็จรูป นี่คือสิ่งที่ Greyhound Cafe ยึดถือมาตลอด โดยทีมเชฟจะเตรียมของให้พอดีในแต่ละวัน แต่ละสาขา แตกต่างกันไป ใครอยากอร่อยกับเมนูของหวานก็อาจจะต้องรีบกันสักหน่อย โดยเฉพาะเมนูฮิตอย่างทับทิมกรอบที่ได้รับความนิยมสูง ถ้าไปช้าอาจไม่ทันได้ เพราะเราเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เราไม่เก็บสต็อกไว้มากจนไม่สามารถคุมคุณภาพได้เท่าที่เราพอใจ ทีมงานต้องกราบขออภัยสำหรับใครที่ตั้งใจไปกินของหวานแล้วต้องผิดหวังไว้ ณ ที่นี่ด้วย
มะพร้าวที่ผ่าเตรียมไว้ ก่อนจะเลาะเนื้อมะพร้าวไปใช้ในเมนูอื่นๆ ต่อไป
เชฟส้มค่อยๆ ใช้ช้อนคว้านเนื้อมะพร้าวออกทีละลูกอย่างใจเย็น
การจัดการกับมะพร้าวแต่ละลูกถือเป็นงานละเอียด ต้องใช้ความพิถีพิถันและใช้เวลาค่อนข้างมาก เชฟต้องค่อยๆ ใช้ช้อนคว้านเนื้อมะพร้าวทีละลูก เมื่อได้เนื้อมะพร้าวแล้วก็ยังไม่จบแค่นั้นเพราะเนื้อมะพร้าวก็ยังมีส่วนเปลือกที่ติดอยู่ด้วย ขั้นตอนต่อไปเชฟต้องใช้มีดค่อยๆ ตัดส่วนเปลือกที่ติดเนื้อออกให้หมด จนเหลือแค่เนื้อมะพร้าวล้วนๆ เท่านั้น
เชฟต้องใช้มีดค่อยๆ ตัดส่วนเปลือกที่ติดอยู่ออกจากเนื้อมะพร้าวจนหมด
เนื้อมะพร้าวเนียนๆ ที่ตัดเปลือกออกหมดแล้ว
มะพร้าวที่หั่นเป็นเส้น เก็บไว้ใช้ในเมนูฮิตอย่างทับทิมกรอบและสาคูเปียกอัญชัน
มะพร้าวที่หั่นเป็นชิ้น นำไปใช้ในเมนูเครปและนำไปทำไอศกรีมมะพร้าว
เทียบให้เห็นกันชัดๆ อีกครั้ง ระหว่างมะพร้าวที่หั่นแบบเส้นและแบบชิ้น 2 รูปแบบหลักๆ ที่ใช้ที่ร้าน Greyhound Cafe
นอกจากเนื้อมะพร้าว 2 รูปแบบที่แฟนๆ เมนูของหวานที่ร้าน Greyhound Cafe น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ “กะทิ” ซึ่งกะทิที่ใช้ในร้าน Greyhound Cafe เราก็ไม่ใช้กะทิสำเร็จรูปเช่นกัน ต้องเป็นกะทิสดเท่านั้น จึงได้รสชาติที่เข้มข้น หอม มัน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้หลายๆ คนต้องติดใจ เชฟส้มยังได้ให้ความรู้กับทีมงานถึงการได้มาของกะทิที่แตกต่างกับการใช้เนื้อมะพร้าวที่ต้องใช้มะพร้าวอ่อน สำหรับกะทินั้นต้องใช้ มะพร้าวห้าว ซึ่งเป็นมะพร้าวที่แก่กว่า
หัวกะทิสดๆ ที่ได้จากมะพร้าวห้าว เคล็ดลับความหอม มัน ในเมนูของหวานที่ร้าน Greyhound Cafe
ทำไอศกรีมมะพร้าวกันดีกว่า
ได้เข้ามาถึงครัวขนมหวานส่วนกลางของ Greyhound Cafe ทั้งที เราเลยขอให้เชฟส้มช่วยสาธิตการทำเมนูจากมะพร้าวให้ดูสักหน่อย ซึ่งเชฟส้มเลือกเมนูไอศกรีมมะพร้าวมาทำให้ทีมงานได้ดูกันทุกขั้นตอน เริ่มจากการตวงน้ำมะพร้าว , กะทิสด , น้ำตาล รวมถึงเนื้อมะพร้าวหั่นเป็นชิ้น ที่ต้องใช้ทุกอย่างตามสูตรเฉพาะของ Greyhound Cafe กะทิที่ใช้ในการทำไอศกรีมนั้นจะไม่ใช้หัวกะทิ 100% แต่จะใช้หัวกะทิประมาณ 70% ผสมกับหางกะทิอีกประมาณ 30% เพื่อไม่ให้กะทิข้นจนเกินไป เมื่อทุกส่วนประกอบพร้อมแล้วก็นำไปตั้งไฟ ผสมทุกอย่างให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ให้เย็นสักครู่จึงนำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีม เพียงเท่านี้ก็จะได้เนื้อไอศกรีมมะพร้าวหวานมันอร่อย นำไปแช่เย็นก็พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้อร่อยกันแล้ว
เชฟส้ม ตวงน้ำมะพร้าวที่ต้องใช้ในการทำไอศกรีมมะพร้าว ตามสูตรเฉพาะของร้าน
กะทิสด ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ไอศกรีมมะพร้าวที่ Greyhound Cafe หวาน มัน ลงตัว
เนื้อมะพร้าวที่หั่นเป็นชิ้นๆ คือส่วนประกอบสำคัญในการทำไอศกรีมมะพร้าวด้วยเช่นกัน
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาใส่ส่วนประกอบทั้งหมดลงในเครื่องปั่นไอศกรีม
เนื้อไอศกรีมที่ปั่นเสร็จแล้ว พร้อมนำไปแช่เย็นต่อไป
ไอศกรีมมะพร้าวเย็นๆ พร้อมเสิร์ฟแล้ว
3 เมนูไฮไลต์ ทับทิมกรอบสไตล์เกรฮาวด์ , สาคูเปียกอัญชัน , ลอดช่องสิงคโปร์
แค่ไอศกรีมมะพร้าวยังไม่พอ เราขอตามเชฟส้มไปหน้าร้าน Greyhound Cafe สาขา The Emquartier ให้เชฟส้มได้สาธิตวิธีการทำ 3 เมนูของหวานจากมะพร้าวที่ฮิตที่สุดประจำร้าน นั่นก็คือ “ทับทิมกรอบสไตล์เกรฮาวด์” , “สาคูเปียกอัญชัน” และ “ลอดช่องสิงคโปร์” ได้เห็นจุดเริ่มต้นของมะพร้าวที่เราคัดเลือกแล้ว ต้องตามไปดูถึงขั้นตอนสุดท้ายคือพร้อมเสิร์ฟถึงโต๊ะกันเลย
สำหรับเมนูแรก “ทับทิมกรอบสไตล์เกรฮาวด์” ที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจ จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ขอเล่าไปพร้อมกับภาพเลยดีกว่า
น้ำแข็งมะพร้าวแช่เย็นเจี๊ยบ สำหรับเมนูทับทิมกรอบสไตล์เกรฮาวด์
ทับทิมกรอบสีสันสดใส มาจากแห้วชุบสี ผสมกับแป้งมันแล้วน้ำไปต้ม
มะพร้าวหั่นแบบเส้น เรานำไปแช่ในน้ำเชื่อมให้หวานถูกใจคุณยิ่งขึ้นไปอีก
ปิดท้ายความหอมมันด้วยกะทิสด 2 ช้อนเต็มๆ ใครจะอดใจไหว
ไม่ต้องเสียเวลา ขอยั่วกันต่อด้วย “สาคูเปียกอัญชัน” ต่อเนื่องกันไปเลย
สาคูของเรานำไปต้ม ใส่น้ำตาล ใส่แห้วหั่นชิ้นเล็กและน้ำอัญชัน
ส่วนมะพร้าวที่ใช้ก็เป็นแบบมะพร้าวหั่นเส้นในน้ำเชื่อมเหมือนทับทิมกรอบสไตล์เกรฮาวด์
ตักไอศกรีมมะพร้าว หวาน หอม ใส่ในถ้วยได้เลย
ตบท้ายด้วยกะทิสดมันๆ “สาคูเปียกอัญชัน” พร้อมเสิร์ฟแล้ว
ปิดท้ายกันด้วยเมนู “ลอดช่องสิงคโปร์” อีกหนึ่งเมนูที่เราใช้กะทิสดหอมมันมาเพิ่มความหวานมันหอมอร่อยจนใครแวะมาร้าน Greyhound Cafe ก็ต้องสั่งอย่างพลาดไม่ได้จริงๆ
กะทิสดๆ ราดลงบนลอดช่องในน้ำเชื่อมพร้อมขนุน นี่แหละ ลอดช่องสิงคโปร์ เมนูโปรดของหลายๆ คน
เพิ่มความเย็นให้ลอดช่องสิงคโปร์ชื่นใจเข้าไปอีก เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
รวมตัว 3 เมนูไฮไลต์อีกครั้ง พร้อมแล้วก็รีบแวะมาร้าน Greyhound Cafe กันได้เลย 🙂
เมนูของหวานสุดอร่อยจากมะพร้าว “Fresh Coconut Makes Real Flavor” ไม่ได้มีแค่ 3 เมนูนี้เท่านั้น เรายังมีเมนูที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองอีกหลายเมนู ได้เห็นมะพร้าวคุณภาพแบบ Hound’s Quality กันไปแล้ว เราเชื่อว่าคุณต้องอยากแวะมาลองสักเมนูอย่างแน่นอน มั่นใจได้เลยว่ามะพร้าวที่นี่ไม่มีคำว่าธรรมดา ทุกส่วนประกอบเราคัดเลือกอย่างตั้งใจ เพื่อให้ได้รสชาติมะพร้าวอย่างแท้จริง
“เครปเค้กมะพร้าว” พร้อมคุกกี้ Signature ของเราก็พลาดไม่ได้
แฟนข้าวเหนียวมะม่วงต้องโดนเมนูนี้ “Sticky Rice Mango Parfait”
สุดท้ายแล้วถึงเราจะยืนยันคุณภาพหรือใช้ภาพที่น่ากินแค่ไหน ถ้าคุณไม่มาลองด้วยตัวเองก็ไม่มีทางรู้ มาลองดูสักครั้งดีกว่า แล้วจะรู้ว่าความอร่อยของจริงเป็นอย่างไร รสชาติหลอกกันไม่ได้อยู่แล้ว 🙂